Skip to content
ศูนย์สังคมพัฒนา มูลนิธิคาทอลิกสุราษฎร์ธานี (DISAC)
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • คณะทำงาน
  • ข่าวสารและกิจกรรม
  • บทความ
ร่วมบริจาค

เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด คุณยอมรับให้เก็บคุกกี้เพื่อการใช้งานหรือไม่?

ศูนย์สังคมพัฒนา มูลนิธิคาทอลิกสุราษฎร์ธานี (DISAC)ศูนย์สังคมพัฒนา มูลนิธิคาทอลิกสุราษฎร์ธานี (DISAC)
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • คณะทำงาน
  • ข่าวสารและกิจกรรม
  • บทความ
ร่วมบริจาค
ศูนย์สังคมพัฒนา มูลนิธิคาทอลิกสุราษฎร์ธานี (DISAC)ศูนย์สังคมพัฒนา มูลนิธิคาทอลิกสุราษฎร์ธานี (DISAC)

บทบาทพระศาสนจักร ในการร่วมป้องกันการค้ามนุษย์ในภาคใต้

  • May 19, 2022
  • Catholic Social Teaching

การค้ามนุษย์นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด แท้จริงแล้วมีมานานนับพัน ๆ ปี ดูจากประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติ จะมีการทำสงครามกัน และผู้ชนะก็นำเชลยสงครามไปเป็นทาส มีการซื้อ-ขายมนุษย์มาตลอดเวลายาวนาน ในยุคสมัยนี้การซื้อขายมนุษย์เป็นสิ่งต้องห้าม ถือว่าผิดกฎหมาย แต่ก็ยังมีการละเลยให้มีการซื้อความสุขทางเพศจากมนุษย์ ซื้อแรงงานของมนุษย์ ใช้มนุษย์เป็นเครื่องจักรเมื่อผลิตสินค้าและบริการต่าง ๆ  มีการล่อลวงให้มนุษย์ทำสิ่งต่าง ๆ โดยใช้ผลประโยชน์และเงินเป็นของล่อใจ เพื่อนำมนุษย์ไปเป็นแรงงานบังคับ … ขัดดอก… แรงงานเด็ก หรือช่วยรบในสงคราม ฯลฯ เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะมีมนุษย์จำนวนหนึ่ง ยังไม่ได้สำนึกว่าคนอื่น ๆ ก็เป็นมนุษย์เหมือนเขา เขาขาดความรัก ความเมตตากรุณา คิดแต่จะหาประโยชน์เพื่อตนเอง โดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด ใครจะเป็นอย่างไรเขาก็ไม่สน

ประเทศไทยซึ่งกำลังพัฒนาและขาดแคลนแรงงานจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสให้คนบางประเภทใช้แรงงานเป็นสินค้า นำเข้ามาขายในตลาดแรงงานของประเทศไทย ในภาคใต้ก็มีอยู่มิใช่น้อย แต่อยู่แบบแอบแฝง โชคดีที่ทางรัฐบาลไทยเห็นถึงภัยร้ายนี้ และได้พยายามดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์นี้มาตลอด ทว่าผลประโยชน์ในธุรกิจนี้มีมหาศาล จึงมีคนมากมายเข้ามาเกี่ยวข้อง ประกอบกับความไร้เดียงสาของบรรดาแรงงานชาย-หญิง จึงทำให้ตกเป็นเหยื่อได้ง่าย

พระศาสนจักรในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคใต้ ได้พยายามร่วมแรงร่วมใจกับภาคส่วนต่าง ๆ แก้ไขปัญหานี้มานานแล้ว แต่มักทำในเชิงป้องกัน โดยรณรงค์ และอบรมให้ความรู้แก่แรงงานหรือผู้ตกอยู่ในความเสี่ยง และบุคคลทั่วไปเสียมากกว่า การทำงานเชิงรุกนั้นเพิ่งจะมีขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่ก็ยังเป็นไปในวงแคบ ๆ เนื่องจากมิได้เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงเหมือนลูกจ้างและนายจ้าง มิใช่ผู้มีหน้าที่กำกับดูแลเหมือนภาครัฐ และไม่มีอำนาจใดใดที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์นี้ได้  ดังนั้น จึงใช้ยุทธวิธีการเกาะกลุ่มกันในรูปของไตรภาคี และทำงานร่วมกันกับภาคธุรกิจ ซึ่งก็คือนายจ้าง-ผู้ประกอบการ กับภาครัฐตามหน่วยงานต่าง ๆ ที่ดูแลเรื่องนี้ และกับกลุ่มผู้เสียหายและแรงงาน โดยทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน ล่ามแปลภาษา และผู้เกื้อกระบวนการ เพื่อให้ทุกฝ่ายที่มีข้อขัดแย้งในประเด็นนี้ ได้พบปะพูดคุยกันถึงปัญหา และร่วมกันหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างสันติ ในขณะเดียวกันก็ทำการรณรงค์และอบรมให้ความรู้เรื่องการป้องกันการค้ามนุษย์แก่สาธารณชนมาตลอด

ในช่วง 1 ปีเศษมานี้ พระศาสนจักรคาทอลิกในภาคใต้ได้เข้าไปเกี่ยวข้องมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่รัฐบาลไทยกำลังพยายามแก้ไขปัญหา Tier-3 และการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU ของ E.U.) ซึ่งนโยบายต่าง ๆ ที่ภาครัฐนำออกมาใช้ค่อนข้างเข้มข้น พร้อมกับมีการแก้ไขกฎหมาย และกฎระเบียบต่าง ๆ เป็นอย่างมาก ทางศูนย์สังคมพัฒนาฯ ได้พยายามตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในระดับปฏิบัติการ ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จ.ระนอง จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต เพื่อใช้เป็นพื้นที่นำร่อง และได้แสวงหาการร่วมมือกับภาคเอกชนมากขึ้น ในส่วนของผู้เสียหาย/ผู้ตกอยู่ในความเสี่ยง ได้ช่วยสนับสนุนให้ร่วมกันเฝ้าระวัง ดูแลกันเองในระดับหนึ่ง โดยดึงเข้าร่วมงานกับภาครัฐและเอกชนได้โดยตรงด้วย

ผลของงานที่ทำมานี้  ได้ทำให้เกิดความสงบสุขในชุมชน ความสามัคคีในภาคส่วนต่าง ๆ ในระดับชุมชนและจังหวัด ลดการเข้าใจผิดและความขัดแย้งที่ไม่จำเป็นลง อีกทั้งยังทำให้ภาพพจน์ของประเทศไทยในสายตาของชาวต่างชาติดีขึ้น ตัวแรงงานข้ามชาติเองก็ทำงานอยู่ในประเทศไทยอย่างสบายใจขึ้น รู้สึกได้รับการดูแลเอาใจใส่จากนายจ้างดีขึ้น จากคนไทยในชุมชน และจากเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย บางคนถึงกับพูดว่า ทำงานอยู่ในประเทศไทยนี้กินอิ่มนอนหลับ และมีเงินเหลือส่งกลับไปเลี่ยงดูบิดามารดาที่ประเทศของเขาได้ด้วย ซึ่งถ้าอยู่ในประเทศของเขาก็จะลำบากมากกว่านี้หลายเท่า  ดังนั้นแรงงานข้ามชาติหลาย ๆ คนจึงอยู่และทำงานที่ประเทศไทยนี้เป็นเวลานาน ๆ ถึงบางคนจะกลับไปเยี่ยมบ้านก็จะอยู่ได้ไม่นาน ที่สุดก็กลับมาทำงานในประเทศไทยต่อไป

ดังนั้น บทบาทของพระศาสนจักรในภาคใต้ ก็คือยังร่วมมือต่อไปในลักษณะของไตรภาคี ซึ่งมีภาคเอกชน ภาครัฐ และภาคแรงงานข้ามชาติ โดยยืนอยู่ท่ามกลางไตรภาคีที่ทำงานในประเด็นนี้ ในเชิงสร้างสรรค์มากขึ้น และจะร่วมมือกับภาคส่วนอื่น ๆ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหานี้ โดยระลึกอยู่เสมอว่า “ถึงแม้ทัศนคติและจิตสำนึกของคนจะเป็นสิ่งที่แก้ไขได้ยากก็ตามที แต่เราก็ต้องพยายามร่วมมือกันต่อไป” เพราะปัญหาการค้ามนุษย์นี้มิได้เป็นปัญหาของผู้หนึ่งผู้ใด แต่เป็นปัญหาของชาติ ของภูมิภาค และของโลกไปแล้ว

แชร์บทความนี้
No results

บทความ

  • Newsletter ฉบับที่ 1/2025 January 17, 2025
  • Newsletter ฉบับที่ 1/2024 September 30, 2024
  • DISAC x Enfants du Mékong September 28, 2023
  • การจัดการชุมชนหมู่คณะให้เข้มแข็ง July 18, 2023
  • คน สัตว์ พืชพันธุ์ และสิ่งแวดล้อม: ความเกี่ยวข้องที่สัมพันธ์พึ่งพากัน July 18, 2023

บทความที่เกี่ยวข้อง

Newsletter ฉบับที่ 1/2025

  • January 17, 2025

Newsletter ฉบับที่ 1/2024

  • September 30, 2024

คำสอนคาทอลิกกับแรงงาน: ปกป้อง คุ้มครองและช่วยเหลือ

  • July 18, 2023

จากเลาดาโตซีถึงอเมซอนที่รัก

  • July 18, 2023

ข่าวสารและกิจกรรมล่าสุด

Catholic Mission ลงพื้นที่ระนอง หนุนเสริมงานพัฒนาชุมชนอย่างบูรณาการ
ศูนย์สังคมพัฒนาฯ จัดกิจกรรมจิตวิทยา-สังคม ให้กับผู้เข้ารับบริการ ณ บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ระนอง
ศูนย์สังคมพัฒนาฯ จัดอบรมให้กับบุตรหลานแรงงานข้ามชาติ เรื่องการค้ามนุษย์ การบังคับใช้แรงงาน โทษภัยของสารเสพติด และการใช้สื่อออนไลน์แบบสร้างสรรค์
กิจกรรมเด็กประจำเดือนมกราคม “ศิลปะถ้วยกระดาษสีสันแฟนตาซี”

ศูนย์สังคมพัฒนา มูลนิธิคาทอลิกสุราษฎร์ธานี (DISAC SURAT)

ที่อยู่ : 3/7 หมู่ 7 บ้านบางสัก ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา 82190

โทรศัพท์ : 076-406473 วันทำการ จ. – ศ. เวลา 08.30-17.00 น.
โทรสาร : 076-406476
เว็บไซต์ : www.disacsurat.com
Email: projectsuratdiocese@gmail.com

Site Map

เกี่ยวกับเรา
คณะทำงาน
ข่าวและกิจกรรม
บทความ
ช่องทางการบริจาค

Facebook

Copyright © 2025 - ศูนย์สังคมพัฒนา มูลนิธิคาทอลิกสุราษฎร์ธานี (DISAC)
Powered by Bank Metha